โลงศพคริสต์ ตำนาน ความเชื่อ และวิวัฒนาการ
โลงศพคริสต์ ตำนาน ความเชื่อ และวิวัฒนาการ โลงศพ หีบศพ สิ่งอปมงคลที่ไม่ค่อยมีใครอยากข้องเกี่ยวนัก แต่โลงศพเหล่านี้ก็เป็นตัวบ่งบอกถึงความเชื่อ พิธีการฝังศพ และเจริญทางอารายธรรมจากอดีตจนมาถึงปัจจุบัน จริงอยู่ที่ความเชื่อเรื่องความตายไม่ได้มีบันทึกเอาไว้มากมายนัก แต่ก็ได้ถูกเล่าขาดและปฏิบัติสืบทอดต่อกันมาอย่างช้านาน ดังเช่นตำนานโลงศพคริสต์นั่นเอง
โลงศพ หรือ Coffin มาจากภาษากรีกที่ว่า “Kophinos” แปลว่าตระกร้า โดยย้อนไปเมื่อ 4000 ปีก่อนคริสตกาล ชาวสุเมเรียนโบราณได้มีธรรมเนียมที่ฝังคนตายเอาไว้ในโลงศพที่เป็นตระกร้าสานจากกิ่งไม้เล็ก ๆ ที่ถักร้อยเป็นเปีย จากนั้นนำศพของผู้เสียชีวิตที่ศีรษะถูกมัดติดกับเท้าใส่เข้าไปในโลงศพไม้แล้วนำไปฝัง ใช้เส้นทางที่วกวนในการไปสุสาน หรือแม้แต่การเจาะบ้านให้เป็นช่องแล้วนำศพออกจากบ้าน และปิดอยู่ในสภาพเดิมทันทีเมื่อนำศพออกไป เพื่อไม่ให้คนที่ตายกลับบ้านได้ถูก ด้วยชาวยุโรปโบราณก็มีความกลัวผีเหมือนคนไทยเรา
ต่อมาเมื่อศาสนาเริ่มเข้ามามีอิทธิพลในชีวิตของชาวยุโรปมากขึ้น จึงได้มีการออกแบบโลงศพให้มีความมิดชิดมากยิ่งขึ้น เปลี่ยนรูปแบบจากโลงศพตระกร้าสานมาเป็นโลงศพทรงสี่เหลี่ยมและนำหินก้อนใหญ่ไปทับไว้เป็นการปิดปากหลุมศพ ซึ่งหินก้อนใหญ่นี้ในเวลาต่อมาญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต ได้มีการเขียนคำไว้อาลัยรักเอาไว้บนแผ่นหินจึงเป็นต้นกำเนิดของป้ายหลุมศพนั่นเอง
เมื่ออิทธิพลของศาสนาคริสต์แผ่นขยายปกคลุมไปทั่วยุโรป โลงศพของชนชั้นสูงและนักบวชจึงได้มีการออกแบบให้แตกต่างจากโลงศพของประชาชนทั่ว ๆ ไป มีการเพิ่มลวดลายต่าง ๆ บนฝาโลงศพ อย่างรูป ไม้กางเขน นักบุญ พระเยชู และนักพิราบขาว เป็นต้น วัสดุที่ใช้ก็เป็นหินก้อนใหญ่ก้อนเดียว แล้วนำมาแกะสลักต่าง ๆ ทั้งเทพปกรณัม ประวัติพระคริสต์ รวมถึงรูปสลักจำลองของผู้เสียชีวิตเอง ด้วยมีความเชื่อที่ว่าจะได้ขึ้นสวรรค์ไปอยู่กับพระเจ้านั่นเอง
สำหรับโลงศพคริสต์ที่หลาย ๆ คนมักคุ้นหน้าคุ้นตากันมากก็คือ โลงศพหกเหลี่ยมที่ท่านเค้าท์แดร๊กคูล่าใช้นอนในเวลากลางวัน โลงศพของแดร๊กคิวล่าจะเป็นสีดำล้วนและผุภายในด้วยผ้านวมสีแดง แต่ในที่นี้เราจะพูกถึงโลงศพคริสต์โดยทั่วไปของชาวคริสต์ ที่นิยมใช้โลงศพทรงหกเหลี่ยม เพราะจะมีการจัดท่านอนของศพที่จะนำมือมาวางบนหน้าอก จึงต้องมีพื้นที่ไว้ให้ข้อศอกกางออก ซึ่งเป็นการจัดท่าทางการนอนของศพให้มีความเหมาะสม ส่วนการประดับตกแต่งโลงศพนั้น จะเน้นเป็นรูปเยซูและไม้กางเขน นั่นเอง
ถึงแม้โลงศพคริสต์จะเป็นจุดเริ่มต้น ของวัฒนธรรมการใช้โลงศพในหลายประเทศทั่วโลกก็ตาม แต่ในทุกประเทศก็จะมีการนำรูปแบบของโลงศพไปปรับให้เข้ากับวัฒนธรรมของตนเองอีกเช่นกัน
สำหรับใครที่ต้องปรึกษาหรือสอบถามเกี่ยวกับการจัดงานศพหรือบริจาคโลงศพ ทางร้านสุริยาหีบศพ มีเจ้าหน้าที่คอยบริการตลอด 24 ชม. เลยค่ะ การตายเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้น ฉะนั้นจงใช้ชีวิตอย่างมีสติ จะทำอะไรให้คิดก่อนเสมอ จงทำแต่ความดีด้วยนะคะ
สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ 02-950-0989
ขอบคุณข้อมูลจาก http://culturalism.blogspot.com
ขอบคุณภาพประกอบจาก http://chotirosk.blogspot.com