พิธีการจัดงานศพแบบจีน
จัดงานศพแบบจีน พิธีการจัดงานศพมีเพื่อเป็นการให้เกียรติและให้ความสำคัญแก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว และยังมีความเชื่อว่าเป็นหนทางในการส่งดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับไปสู่ภพภูมิที่ดี และเพื่อเป็นเครื่องย้ำเตือนจิตใจของผู้ที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน ถึงความไม่เที่ยงแท้ของสังขาร ซึ่งอาจจะเป็นการช่วยส่งเสริมให้ผู้คนรอบข้างตระหนักถึงการสะสมบุญ โดยหมั่นสร้างความดีในขณะที่ยังมีชีวิต เพื่อที่ชาติภพต่อไปจะได้มีโอกาสเกิดมาเป็นมนุษย์อีก
ในช่วงชีวิตคนเรา มีความผูกพันกับพิธีศพอยู่หลายครั้ง เมื่อชีวิตเดินทางมาถึงช่วงที่คนรอบข้างค่อย ๆ จากไปทีละคน เมื่อชีวิตเริ่มเติบโตและได้เห็นการล้มหายตายจากของคนที่เรารัก เมื่อนั้นก็จะเกิดความเข้าใจในสัจธรรมต่าง ๆ มากขึ้น มีเกิด ก็ต้องมีแก่ เมื่อมีแก่ ก็ต้องมีเจ็บและตายเป็นธรรมดาของสังขาร เป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็ล้วนแล้วแต่จะต้องเผชิญหน้ากันทั้งนั้น
ดังนั้นแต่ละประเทศมีความเชื่อที่แตกต่างกันไป ทำให้มีขั้นตอน พิธีการจัดงานศพที่ต่างกันไปด้วย โดยความเชื่อของคนไทยที่เป็นไทยแท้ การจัดพิธีศพจะมาพร้อมพิธีกรรม 3 ขั้นตอนใหญ่ ๆ นั่นก็คือ พิธีรดน้ำศพ, พิธีสวดศพและพิธีฌาปนกิจ แต่หากมองในมุมของคนจีนหรือคนไทยเชื้อสายจีน การจัดพิธีศพก็จะมีขั้นตอนที่หลากหลายและแตกต่างตามความเชื่อหรือประเพณีปฏิบัติที่สืบต่อกันมา และวันนี้แอดมินจะมาให้ความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนและการ จัดงานศพแบบจีน ค่ะ แอดมินหวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านนะคะ
ความสำคัญของการทำพิธีศพของคนจีน
ชาวจีนส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับพิธีศพเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะหากศพนั้นเป็นศพของผู้ที่เป็นที่รัก เป็นศพของพ่อแม่, ผู้ชิดใกล้, สามี, ภรรยาหรือบุตรหลาน การจัดพิธีศพจึงจำเป็นต้องมีความละเอียดและสมบูรณ์แบบมากที่สุด เพื่อเป็นการแสดงถึงความเคารพและแสดงความอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย อีกทั้งยังเป็นเครื่องยืนยันถึงความกตัญญูของผู้ที่จัดพิธีต่อตัวผู้ตายด้วย
โดยการทำพิธีศพในแบบคนจีนนั้น มาพร้อมความหมายในพิธีกรรมที่แสดงออกถึงการให้เกียรติผู้ตาย, การส่งดวงวิญญาณของผู้ตายให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี รวมถึงยังส่งผลดีให้กับตัวผู้ที่เกี่ยวข้องให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองในอาชีพการงานรวมไปถึงเรื่องอื่น ๆ ในชีวิตด้วย ซึ่งพิธีศพของจีนมีความแตกต่างจากพิธีของคนไทยแท้อยู่หลายประการ
ความเชื่อของการจัดงานศพของคนจีน
หากว่ากันถึงความตายในมุมมองของคนจีนแล้ว จะมีความหลากหลายและซับซ้อนมากกว่าความตายของคนชาติอื่น ซึ่งล้วนแล้วแต่เกิดจากความเชื่อที่แตกต่างกันออกไป โดยจากอดีตสู่ปัจจุบัน พิธีศพของคนจีนได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบมาแล้วมากมายตามสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป
ในสมัยก่อนคนจีนมีความเชื่อว่า พลังของดวงวิญญาณผู้ตายไม่ได้ดับสูญไปตามร่างกาย แต่ถูกส่งไปพักเป็นหนึ่งเดียวกับผืนแผ่นดิน ทำให้เกิดเป็นธรรมเนียมในการฝังศพ และเมื่อมีการฝังศพผู้ตายไว้ในที่ที่เหมาะสมแล้ว พลังชีวิตของผู้ตายก็จะคอยส่งเสริมให้ทายาทของผู้นั้นมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เจริญก้าวหน้าในการงานและเรื่องต่าง ๆ
ต่อมาเมื่อเวลาล่วงเลย ความเชื่อดังกล่าวได้เปลี่ยนไป จากการฝังศพจึงถูกแปรสภาพมาเป็นการเผา ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นเมื่อตอนที่จีน รับสืบทอดศาสนาพุทธนิกายมหายานและวัฒนธรรมจากอินเดีย โดยความเชื่อดังกล่าวบอกไว้ว่า ผู้ตายไปแล้วจะไม่หลงเหลือดวงจิตวิญญาณที่ผูกพันกับร่างกายอีกต่อไป ทำให้ผู้เกี่ยวข้องกับศพหันมาเผาศพแทน ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกและไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับภาระในการจัดหาสถานที่ฝังศพอีกด้วย ซึ่งเป็นวิธีปฏิบัติที่สืบทอดกันมาอย่างแพร่หลายจวบจนถึงปัจจุบัน
ขั้นตอนการจัดพิธีศพโดยทั่วไปของคนจีน
เนื่องจากพิธีศพเป็นพิธีสำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุดพิธีหนึ่งในชีวิตของคนจีน ทำให้ทุกครั้งที่มีการจัดงานศพ ผู้เกี่ยวข้องกับผู้ตาย จำเป็นจะต้องมาร่วมงานเพื่อแสดงความไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย อีกทั้งยังเป็นการแสดงความเคารพต่อตัวผู้ตาย จึงถือได้ว่างานศพของคนจีนจะเป็นงานที่รวมญาติของผู้ตายไว้มากที่สุด มากกว่างานวันเกิด, งานแต่งงานหรืองานไหน ๆ และพิธีศพของจีนที่ปฏิบัติกันในปัจจุบันก็จะมีความคล้ายคลึงกับพิธีศพของคนไทยในบางขั้นตอน แต่สำหรับบางขั้นตอนนอกเหนือจากนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อต่าง ๆ ของคนภายในครอบครัวที่ปฏิบัติสืบต่อกันมา โดยมีขั้นตอนการปฏิบัติดังต่อไปนี้
1. ติดต่อประสานงานผู้ที่เกี่ยวข้องในการจัดงาน
ขั้นตอนแรกโดยทั่วไปของการทำพิธีศพก็คือ ติดต่อซินแสหรืออาจารย์, ติดต่อนิมนต์พระเพื่อมาทำพิธี, ติดต่อร้านโลงศพต่าง ๆ ให้เรียบร้อย, ติดต่อผู้ใหญ่ที่นับถือเพื่อมาทำการตอกตะปูโลงศพ, ติดต่อวัดเพื่อจัดสวดอภิธรรม ซึ่งเป็นสิ่งเริ่มต้นพื้นฐานก่อนจะเริ่มทำพิธีศพที่คล้าย ๆ ลักษณะพิธีของคนไทย
2. จัดแจงศพผู้ตายให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย
ขั้นตอนต่อมาคือ จะต้องตรวจสอบสภาพศพให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์เสมือนกับตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งถ้าเสียชีวิตจากอุบัติเหตุโดยขาดความสมประกอบ ก็จะมีการตกแต่งศพให้กลับมาใกล้เคียงสภาพที่สมบูรณ์มากที่สุด จากนั้นก็จะทำการแต่งกายศพให้อยู่ในรูปลักษณ์ที่สวยงาม นำชุดโปรดของผู้ตายมาสวมใส่ มีการป้อนข้าว ป้อนน้ำให้กับศพเพื่อให้อิ่มท้อง เพราะคนจีนมีความเชื่อว่า การจะนำศพลงไปบรรจุในโลง เปรียบเสมือนการพาศพไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ เพราะฉะนั้นการให้ความสำคัญในด้านข้าวปลา อาหาร หรือเครื่องแต่งกายที่สวยงาม รวมไปถึงโลงศพที่บรรจุ จึงถือเป็นเรื่องที่จำเป็น
3. ป้อนข้าว ป้อนน้ำแก่ผู้ตาย
ขั้นตอนของการป้อนข้าว ป้อนน้ำเป็นสิ่งสำคัญที่ลูกหลานผู้ตายจะต้องเป็นผู้กระทำ ซึ่งในขณะที่ใช้ตะเกียบคีบข้าว เข้าปากผู้ตายนั้น ผู้ป้อนก็จะต้องกล่าวคำขอบคุณผู้ตายเพื่อเป็นการระลึกถึงบุญคุณต่าง ๆ ที่ผ่านมาเมื่อครั้งยังมีชีวิต จากนั้นให้นำกิ่งทับทิมแตะน้ำมนต์แล้วไปสัมผัสปากของผู้ตาย เพื่อให้ผู้ตายเสมือนได้ดื่มน้ำมนต์ของพระพุทธองค์ โดยขั้นตอนนี้ลูกหลานของผู้ตายจะต้องเวียนมาทำให้ครบทุกคน เริ่มจากลูกชายคนโตสุด สะใภ้ และลูกสาว
4. จุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่ก่อนบรรจุศพใส่โลงศพ
ขั้นตอนของการบรรจุศพใส่โลงศพนั้น ผู้ทำพิธีจะต้องจุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่ก่อนที่จะบรรจุศพลงไป เพราะโลงศพเปรียบเสมือนบ้านหลังใหม่ของผู้ตาย เมื่อผู้ตายกำลังจะย้ายเข้าไปอยู่ก็ต้องมีการบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางก่อน หลังจากบอกกล่าวกับเจ้าที่เจ้าทางเสร็จแล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการยกผู้ตายบรรจุในโลงศพ ขั้นตอนนี้ให้ลูก ๆ ของผู้ตายแต่ละคน ช้อนไหล่ของผู้ตายด้านหลังศีรษะ พร้อมกล่าวคำขอบคุณที่ผู้ตายเลี้ยงดูเรามาตั้งแต่เล็กแต่น้อย
5. ยกศพผู้ตายบรรจุลงในโลง พร้อมวางกระดาษเงินกระดาษทองและของใช้
จากนั้นก็ทำพิธีบรรจุศพลงโลงศพ โดยเจ้าหน้าที่จะเข้ามายกร่างของผู้ตายลงไปในโลงศพ แล้วให้ลูกหลาน จัดการวางกระดาษเงินกระดาษทองลงในโลงศพ พร้อมเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ซึ่งขั้นตอนนี้มาพร้อมความเชื่อของคนจีนตรงที่ว่า ทิศทางในการวางสิ่งของต่าง ๆ ของลูกหลานแต่ละคน จะส่งผลเกี่ยวข้องกับความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตภายภาคหน้าของพวกเขาด้วย และเมื่อจัดการวางสิ่งของต่าง ๆ ลงในโลงเสร็จแล้ว ก็เข้าสู่ขั้นตอนการปิดฝาโลงศพ เพื่อนำไปทำพิธีในขั้นตอนต่อไป
6. เคลื่อนศพมาตั้งไว้ที่ศาลาเพื่อเตรียมพิธีสวดอภิธรรม
ขั้นตอนหลังจากปิดฝาโลงศพ ส่วนใหญ่คนจีนก็จะมีพิธีกรรมในการปฏิบัติที่คล้าย ๆ กับคนไทย นั่นก็คือการเคลื่อนศพมาไว้ที่ศาลาเพื่อเชิญพระมาสวดอภิธรรมศพ โดยก่อนที่พระจะเริ่มสวดนั้น จะมีการเคาะโลงศพเพื่อเรียกผู้ตายมาฟังพระสวด ซึ่งการนิมนต์พระมาสวดในงานศพของคนจีนในปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะไม่แตกต่างจากแบบของไทย เพราะเป็นบทสวดอภิธรรมในแบบเดียวกัน ที่ว่าด้วยการพิจารณาคนตายว่าเป็นสิ่งไม่เที่ยง ให้เกิดความเข้าใจกับสัจธรรมของชีวิต และบอกกล่าวแก่ญาติโยมของผู้ตายให้นำเอาหลักคำสอนนี้ไปใช้ประกอบชีวิตในภายภาคหน้า
7. ทำพิธีฌาปนกิจหรือฝังศพ
ขั้นตอนสุดท้ายก็คือ เรื่องของการเผาหรือเก็บศพเอาไว้หลังจากสวดเสร็จนั้น ก็แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละครอบครัว บ้านที่มีความเชื่อเรื่องฮวงซุ้ย และมีที่ในการฝังศพ ก็อาจจะยังคงยึดถือวิธีฝังอยู่ ส่วนบางบ้านที่เป็นความเชื่อแบบไทย ก็จะนำศพไปประกอบพิธีฌาปนกิจในวันสุดท้ายของพิธี
นี่ก็เป็นเพียงแค่ข้อมูลคร่าว ๆ ในการจัดงานศพแบบพิธีจีนค่ะ หากท่านใดต้องการปรึกษาบริการจัดงานศพจีนแบบครบวงจรหรือทำพิธีกงเต๊ก ก็สามาถติดต่อได้ที่ www.suriya.co.th หรือที่เบอร์ 02-950-0989 ได้ตลอด 24 ชม. สุริยาหีบศพบริการรับจัดงานศพแบบครบวงจร หีบศพ โลงศพ โลงจำปา และอีกทั้งยังมีโปรโมชั่นแพคเกจสุดคุ้มอีกมากมายให้ทุกท่านได้เลือกตามความต้องการ และสำหรับท่านใดที่ต้องการจัดงานศพแบบพิธีจีนทางเราก็มีซินแสในการทำพิธีดูฤกษ์และยังมีผู้เชี่ยวชาญในการจัดงานศพด้วยค่ะ ดังนั้นทุกท่านสามารถไว้วางใจให้เราได้เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคนที่คุณรักเป็นครั้งสุดท้ายค่ะ