ตำนานคู่รัก “โลงศพคู่ วัดหัวลำโพง”
ตำนานคู่รัก “โลงศพคู่ วัดหัวลำโพง” ถือเป็นโศกนาฏกรรมของคู่รัก โดยความรักทั้งคู่เกิดจากเพศเดียวกัน ความรักระหว่างนายประโนตย์ วิเศษแพทย์ ผู้คนทั่วไปต่างพากันเรียกว่าสีดา เป็นสาวสวยประเภทสองกับนายสมชาย แก้วจินดา หรือ ชีพ กล่าวย้อนอดีตไปเมื่อ 54 ปีที่แล้ว
ในพ.ศ. 2510 ชื่อของ สีดา มีที่มาจากเธอมีพี่น้องทั้งหมด 5 คน และสีดาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของบ้าน ทำให้เขามีความอ่อนโยน เรียบร้อย ของความเป็นหญิงมากกว่าชายทั่วไป เขามีความสนใจในด้านการแสดงตั้งแต่เด็ก และได้รับการสนับสนุนของแม่ ทำให้นายประโนตย์ สอบเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนนาฏศิลป กรมศิลปากร หรือ วิทยาลัยนาฏศิลปะในปัจจุบัน นี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของชื่อ “สีดา” ทำให้สีดาสามารถแสดงความรู้สึก และความเป็นตัวเองได้อย่างอิสระ รวมไปถึงการแสดง การแต่งกายเป็นหญิงสาว ถึงแม้ว่าในสมัยนั้นยังไม่เป็นที่ยอมรับเรื่องเพศที่ 3 มากนัก แต่สีดาก็เลือกที่จะแต่งตามที่ตัวเองอยากเป็น ทำให้สีดานั้นมีความงามเป็นที่โด่งดัง จนมีการตั้งฉายาว่า “นางงาม 50 มงกุฎ” การสวยแบบไร้คู่แข่ง
ความรักเริ่มต้นของสีดาได้คบหากับผู้ชายคนนึงเป็นเวลา 8 ปี แต่ต้องเลิกรากันไป เพราะฝ่ายชายได้มีการนอกใจไปคบกับผู้หญิง หลังจากนั้นสีดาก็ได้เจอกับรักครั้งใหม่เป็นจุดเริ่มต้นของตำนานที่เล่าต่อกันมาว่า “ตำนานโลงศพคู่ วัดหัวลำโพง” นั่นเอง โดยสีดาพบกับชายที่มีรูปร่างหน้าตาดี และสุภาพเรียบร้อย ทำงานเป็นพนักงานขับรถ ก็คือนายสมชาย หรือชีพ ทั้งคู่ได้คบหากันและเกิดความหึงหวง จึงทำให้ทั้งคู่ได้ไปสาบานต่อกันที่วัดพระแก้วและศาลหลักเมืองว่า “ถ้าเราไม่ซื่อสัตย์ต่อกันก็ขอให้ตายด้วยกัน ถ้าสีดาตายก่อน ชีพจะต้องตายตามไป แต่ถ้าชีพตายก่อน สีดาก็จะต้องตายตามไป”
เนื่องจากเกิดการหึงหวงคิดว่าชีพมีผู้หญิงมาติดพันจนเกิดการทะเลาะกันหลายครั้ง ทำให้สีดากลับมาคิดว่า เธอไม่ใช่หญิงแท้ทำให้มอบความสุขให้กับชีพไม่ดีพอ เกิดการเลิกรากันไป เรื่องนี้ทำให้สีดาเก็บมาคิดสั้นฆ่าตัวตาย โดยกินยาพิษหลายครั้งแต่ก็มีคนมาช่วยได้ทุกครั้ง จนเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2510 เป็นครั้งสุดท้ายที่สีดาได้มีชีวิตอยู่ เขาได้กินยาพิษ แต่โชคชะตาไม่เข้าข้างไม่มีใครที่สามารถช่วยเขาได้ทัน ทำให้สีดาตายอย่างโดดเดี่ยวในบ้านพัก เมื่อชีพทราบข่าวก็ได้มากอดศพของสีดา แล้วพูดแต่ประโยคที่ว่า “ผมจะตามพี่ไป พี่รอผมด้วย” หลังจากนั้นชีพก็บวชเณรให้กับสีดา เมื่อสวดศพครบ 3 คืน เณรชีพตัดสินใจสึก แล้วนำทรัพย์ที่ซื้อร่วมกันไปจำนำ นำไปมอบให้แก่คนในบ้าน และได้เขียนจดหมายสั่งเสียว่า “ขอให้นำเงินจำนวนดังกล่าวนี้เพื่อทำศพของเขา ขอให้พี่ๆ ช่วยเป็นภาระในการเลี้ยงดูแม่ ส่วนศพของเขาให้เอาไว้ที่วัดหัวลำโพงคู่กับศพของสีดา” ต่อมา ชีพ ก็กินยาพิษและเสียชีวิตเมื่อตอนเที่ยงของวันที่ 15 พฤษภาคม 2510 และนี่คือ “ตำนานโลงศพคู่ วัดหัวลำโพง”
“เรื่องราวความรักของคนทั้งสองที่มีให้แก่กัน และคงเป็นตำนานที่จะอยู่คู่กับวัดแห่งนี้ตลอดไป”
ซึ่งวัดหัวลำโพงนอกจากจะมีตำนานเล่าต่อกันมาแล้ว วัดหัวลำโพงยังรับบริจาคโลงศพเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ หรือผู้ไร้ญาติ การทำบุญถวายโลงศพจะเป็นการต่อบุญให้แก่ตัวท่านเอง การบริจาคโลงศพสามารถบริจาคได้ตามกำลังศรัทธา และนอกจากวัดหัวลำโพงแล้ว ทางสุริยาฟิวเนอรัลก็รับบริจาคโลงศพ และบริการอื่น ๆ อาทิ โลงศพ หีบศพ ดอกไม้โลงศพ ด้วยเช่นกัน หากท่านสนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 02-950-0989 ตลอด 24 ชม.
ขอบคุณรูปภาพจาก : https://1th.me/z6QOJ